แนะนำประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของนครฉงชิ่ง

 

นครฉงชิ่งเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 3,000 ปี

คำว่า “ฉงชิ่ง”มีความหมายว่า“ความสุขหรือการฉลองเป็นสองเท่า”  

ประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ยาวนานถึง 3,000 กว่าปี ได้ทำการสร้างเมืองถึง 4 ครั้ง และเป็นเมืองหลวงถึง 3 ราชวงศ์นครฉงชิ่งจึงถือเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมปายู(Ba-yu) 

ในต้นยุคหินเก่าเมื่อ2.04ล้านปีก่อนนครฉงชิ่งมีมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดปรากฏตัวขึ้นในจีน นั่นก็คือ คนหวู่ซาน

นครฉงชิ่งเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางการทหารและเป็นท่าเรือที่สำคัญทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่สมัยโบราณเป็นต้นมา

แคว้นปา (the Ba State)ก่อตั้งขึ้นบนผืนแผ่นดินแห่งนี้เมื่อศตวรรษที่ 11 ก่อนคริสต์ศักราชและได้สืบทอดกันมาราว 800 ปี

เนื่องจากมีแม่น้ำเจียหลิง ซึ่งในสมัยโบราณมีชื่อเรียกว่า“หยูซุ่ย” ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำแยงซีที่นี่ฉงชิ่งจึงเรียกชื่อย่อว่า “หยู”

เมื่อ 316 ปีก่อนคริสต์ศักราชหลังจากราชวงศ์ฉินรบชนะราชวงศ์ปา ก็ได้ก่อตั้งมณฑลปาขึ้นมา (ปัจจุบันอยู่ในเขตหยูจงนครฉงชิ่ง) นับเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งนครฉงชิ่งตามประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร

ราชวงศ์ฉินได้แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 36มณฑล โดยมณฑลปาก็เป็นหนึ่งในนั้น

เมื่อปี ค.ศ.1189 Zhao Dunได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง Gong ที่นี่ จากนั้นเขาได้ขึ้นครองราชย์และได้ตั้งชื่อเมืองแห่งนี้ว่า “เมืองฉงชิ่ง”ในช่วงท้ายของราชวงศ์ซ่ง กองทัพมองโกเลียได้โจมตีปิดล้อมเมืองเตี้ยวหยู เหอชวน ในฉงชิ่งจึงได้เริ่มการต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองเตี้ยวหยูมาเป็นระยะเวลา 36 ปี ระหว่างการสู้รบKhan Meng Ge ของมองโกเลียถูกสังหารชีวิตด้วยกระสุนปืน ทำให้เจ้าเมืองของมองโกเลียต่างๆ ถอยทัพออกจากสนามรบในยุโรปและเอเชีย เพื่อกลับไปแย่งชิงราชบัลลังก์ จึงทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง

เมื่อปี ค.ศ.1890นครฉงชิ่งได้เปิดใช้ท่าเรือ

เมื่อปี ค.ศ.1929นครฉงชิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองอย่างเป็นทางการ

เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1937นครฉงชิ่งได้กลายเป็นเมืองหลวงของจีนในช่วงสงคราม ซึ่งเป็นระยะเวลา 8 ปี 5 เดือนในช่วงเวลานี้ พวกฟาสซิสต์ญี่ปุ่นได้ทำการโจมตีทางอากาศ โดยทิ้งระเบิดใส่ทั่วนครฉงชิ่งซึ่งเป็นระยะเวลา 5 ปีครึ่งในฐานะที่เป็นศูนย์บัญชาการตะวันออกไกลในสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก คนฉงชิ่งได้ต่อสู้กับระเบิดนับล้านตันด้วยเลือดเนื้อและจิตวิญญาณที่ว่า“ยิ่งมีระเบิดมากเท่าไรจิตใจก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น”จนได้เป็นกำลังสำคัญในการรบชนะสงครามต่อต้านญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก

สำนักงานภาคใต้ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและสำนักงานกองทัพเส้นทางที่แปดที่ก่อตั้งขึ้นในหมู่บ้านหงเหยียนมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา “แนวรบเอกภาพ” สมัยสงครามต่อต้านญี่ปุ่น และจิตวิญญาณหงเหยียน (ซึ่งแปลว่าหินแดง)ได้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นท่ามกลางการต่อสู้อันยากลำบาก

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ.1949นครฉงชิ่งได้รับการปลดปล่อยและได้รับการคัดเลือกให้เป็นสำนักงานตะวันตกเฉียงใต้ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมืองที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง เมืองนำร่องการปฏิรูปเศรษฐกิจแบบองค์รวมชุดแรก  และเมืองเปิดริมฝั่งแม่น้ำตามลำดับ

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1997ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง โดยได้รับการอนุมัติจากการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติชุดที่8 ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนในปีเดียวกันนครฉงชิ่งได้ทำพิธีเปิดป้ายอย่างเป็นทางการ เพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ว่า นครฉงชิ่งเป็นเมืองที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง

นครฉงชิ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมีขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม และมีจิตวิญญาณอันประเสริฐซึ่งได้สั่งสมและปฏิบัติสืบทอดต่อเนื่องกันมา

วัฒนธรรมฉงชิ่งนั้น มีความหยาบกร้านเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา เร่าร้อน มองโลกในแง่ดี เปิดกว้าง ยึดมั่น และกล้าหาญซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของอารยธรรมลุ่มแม่น้ำแยงซีดุจดังดอกไม้อันงดงามที่เบ่งบานและเปล่งประกายในสวนแห่งวัฒนธรรมจีน

วัฒนธรรมฉงชิ่งนั้น มีขอบเขตอันกว้างขวางแต่ในขณะเดียวกันก็มีความละเอียดอ่อนอยู่ในตัว หากคุณอยากจะเรียนรู้วัฒนธรรมฉงชิ่งอย่างลึกซึ้งโปรดเปิดอ่านหนังสือสุดคลาสสิกเล่มนี้ และไปตามรอยประวัติศาสตร์ไปใกล้ชิดกับโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ เพื่อรับรู้เรื่องราวอันเก่าแก่ที่สะท้อนจากโบราณวัตถุเหล่านี้โปรดไปท่องเที่ยวท่ามกลางภูเขาและสายน้ำ เพื่อไปสัมผัสภูเขา สายน้ำ หุบเขา เมืองตลอดจนวัฒนธรรมประเพณีอันน่าแปลกตาแปลกใจ

เมืองแห่งเขาเขียวน้ำใส

นครฉงชิ่งกำลังเร่งสร้างเมืองให้เป็นเมืองแห่งเขาเขียวน้ำใส

น้ำใสป่าสวย

นครฉงชิ่งมีคำขวัญที่ว่าว่า “ร่วมกันรักษาในวงกว้างแทนการบุกเบิกขนาดใหญ่”

นครฉงชิ่งตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซียึดมั่นในการรักษาระบบนิเวศ และการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการสร้างเมืองแห่งเขาเขียวน้ำใสให้มีลักษณะเด่นชัดยิ่งขึ้น

นครฉงชิ่งได้ปฏิบัติตามแผนการรักษาสิ่งแวดล้อมชีวกายภาพของรัฐบาลกลางและมาตรการป้องกันมลพิษทางอากาศทางน้ำ และทางดินแห่งชาติอย่างเต็มรูปแบบ ได้ดำเนิน “แผนการรักษาสิ่งแวดล้อม5 ประการ”อย่างต่อเนื่องกล่าวคือ น้ำใส ฟ้าสวย บรรยากาศเงียบสงบ ทุ่งหญ้าสีเขียว และหมู่บ้านธรรมชาติเพื่อให้ดัชนีชี้วัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมดีขึ้นเรื่อย ๆ

——เมื่อปี ค.ศ.2020 แม่น้ำแยงซีช่วงที่ไหลผ่านนครฉงชิ่งมีคุณภาพน้ำโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี หน่วยงานระดับชาติได้ทำการตรวจสอบหน้าตัดของน้ำ 442 แห่ง พบว่าคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดีสูงถึง 100เปอร์เซ็น

——จำนวนวันที่มีคุณภาพอากาศดีสูงถึง 333 วันและค่าเฉลี่ยของฝุ่น PM2.5 ได้ลดลงร้อยละ 42.1 ภายใน 5 ปี

——ปฏิบัติตามระบบหัวหน้าแม่น้ำและระบบหัวหน้าป่าอย่างเต็มรูปแบบสร้างโครงการ “ภูเขาสีเขียวทั้งสองฟากฝั่งและผืนป่านับพันไมล์”ซึ่งครอบคลุมพื้นที่200 ตารางกิโลเมตรและได้แก้ไขปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน800 ตารางกิโลเมตรและแก้ไขปัญหาการแปรสภาพเป็นทะเลทราย 400ตารางกิโลเมตร 

——อัตราการครอบคลุมพื้นที่ป่าของนครฉงชิ่งสูงถึงร้อยละ 52.5

นายสี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีนเคยกล่าวไว้ว่า “น้ำใสภูเขาเขียวคือภูเขาเงินภูเขาทอง”

นครฉงชิ่งเปรียบเสมือนฉากกำบังทางระบบนิเวศที่ตั้งอยู่บนต้นน้ำของแม่น้ำแยงซีเพราะนครฉงชิ่งมีทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ เช่น แม่น้ำแยงซี แม่น้ำเจียหลิงแม่น้ำหวู่เจียง แม่น้ำต้าหนิง แม่น้ำอายี ฯลฯ และมีภูเขาจินหยุน ภูเขาหนานซานภูเขาจินฝอ ภูเขาซี่เมี่ยน ภูเขานางฟ้า ฯลฯ หากยังมีสามโตรก สามโตรกน้อย สามโตรกขนาดย่อมหุบเขาเฮยซาน ฯลฯ ตลอดจนเขตอนุรักษ์ธรรมชาติต่าง ๆ เขตอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลา ฯลฯ

นครฉงชิ่งได้เดินหน้าส่งเสริมการปลูกต้นไม้และปลูกป่าเพื่อให้สภาพแวดล้อมดีขึ้นส่งเสริมการแก้ไขปัญหามลพิษทางดินเกษตร ปัญหามลพิษทางดินก่อสร้างและปัญหามลพิษของขยะมูลฝอย ทำให้คุณภาพดินโดยรวมมีเสถียรภาพมากขึ้น

 

เมืองสามมิติ

ความได้เปรียบทางภูมิประเทศทำให้นครฉงชิ่งเป็นเมืองที่มีลักษณะ“สร้างเมืองบนภูเขาแม่น้ำไหลผ่านตัวเมือง” ดังนั้น ภูเขาและสายน้ำจึงเป็นแก่นสารของทั้งทัศนียาภาพและจิตวิญญาณของนครฉงชิ่ง

นิตยสาร National Geographicที่จัดพิมพ์โดยสหรัฐอเมริกา ได้พรรณนาถึงนครฉงชิ่งว่า นครฉงชิ่งเป็นเมืองแห่งภูเขากล่าวคือ ภูเขาก็คือเมือง และเมืองก็คือภูเขา หากท่องเที่ยวในนครฉงชิ่ง แผนที่ 2มิติย่อมจะไม่เพียงพอ คุณต้องมีแผนที่ 3 มิติ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ “วิ่งทะลุ” อาคารหรือสะพานลอย 5 ชั้นที่เชื่อมต่อด้วยทางรถวิ่ง 20 กว่าเลนล้วนทำให้นครฉงชิ่งสมคำร่ำลือที่ว่า “เมืองมหัศจรรย์ 3 มิติ”

 

วิวกลางคืนของนครฉงชิ่ง

นครฉงชิ่งสร้างเมืองเรียงรายอยู่บนภูเขาแสงสีสองฟากฝั่งแม่น้ำสวยสดงดงาม สายน้ำส่องประกายระยิบระยับ รวมทั้งสะพานข้ามแม่น้ำที่ถูกตกแต่งประดับไฟอย่างสวยงามพอตกเย็น ก็จะกลายเป็นภาพวาดอันวิจิตรที่มีภูเขากับสายน้ำผสมผสานกันอย่างกลมกลืน ซึ่งเป็นวิวกลางคืนที่น่าหลงไหล

เมืองแห่งอาหารเลิศรส

นครฉงชิ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็น “เมืองแห่งอาหารเลิศรส”โดยมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปและพัฒนาเมืองและชนบทของนครฉงชิ่งจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีซึ่งได้ระบุไว้ว่า ให้สร้างนครฉงชิ่งเป็นเมืองแห่งอาหารเลิศรสในบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำแยงซี

 

หม้อไฟฉงชิ่ง

หม้อไฟฉงชิ่งเป็นอาหารขึ้นชื่ออันดับต้น ๆในประเทศจีน โดยมีลักษณะเด่นดังต่อไปนี้ อุตสาหกรรมหม้อไฟมีขนาดใหญ่ผู้บริโภคมีจำนวนมาก มีรสชาติที่หลากหลาย มีเมนูให้เลือกนานาชนิด ประเพณีการกินหม้อไฟได้สืบทอดกันมายาวนานจนกลายเป็นวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองไป เมื่อปี ค.ศ. 2007นครฉงชิ่งได้รับการยกย่องให้เป็น “เมืองแห่งหม้อไฟในจีน”จากสมาคมผู้ประกอบธุรกิจอาหารจีน

 

บะหมี่ฉงชิ่ง

บะหมี่ฉงชิ่งเป็นอาหารที่พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนนและตรอกซอกซอยในนครฉงชิ่งมีนักชิมสั่งเมนูนี้อย่างไม่ขาดสายจนกลายเป็นทิวทัศน์อันน่าพิสมัย และบะหมี่ฉงชิ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในเมนูของสารคดีฮิต“A Bite ofChina” 

 

อาหารฉงชิ่ง

อาหารฉงชิ่งเป็นอาหารรสจัดบางทีเผ็ดสุด ๆ บางทีเปรี้ยวจี๊ดในความดุดันและความเรียบง่ายนั้นทำให้เราได้สัมผัสถึงกลิ่นหอมอันสดชื่นและรสชาติที่เข้มข้น

 

ขนมขบเคี้ยวของฉงชิ่ง

ในนครฉงชิ่งมีขนมขบเคี้ยวนานาชนิด ซึ่งล้วนมีลักษณะเฉพาะท้องถิ่นเช่น บัวลอยซานเฉิงเกี๊ยวข้าวเหนียว เค้กเย็น ขนมข้าวเหนียว ข้าวเกรียบ ผักดอง Fulingส่าถั่วเหลือง Yongchuan ขนมชั้น Hechuan เต้าหู้แห้งWulong เป็ดย่าง Baishiyi เป็นต้น

 

เมืองแห่งน้ำพุร้อน

นครฉงชิ่งมีแหล่งน้ำพุร้อนชั้นนำระดับโลกได้ค้นพบพื้นที่น้ำพุร้อนถึง10,000 ตารางกิโลเมตรและมีน้ำพุร้อนเหมืองแร่ 146 แห่งซึ่งกระจายอยู่ตามตัวเมืองและชนบทในนครฉงชิ่ง 

โครงการ “มุ่งพัฒนาน้ำพุทั้งสิบในห้าทิศ บุกเบิกน้ำพุนับร้อยรอบตัวเมือง” มีจุดประสงค์เพื่อเทียบเท่ากับบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงระดับโลกเพิ่มฟังก์ชันในการพักผ่อนหย่อนใจและบำรุงสุขภาพวางแผนสร้างสถานที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อนโรงแรมน้ำพุร้อนรีสอร์ทน้ำพุร้อน40 กว่าแห่ง นครฉงชิ่งได้รับการตั้งชื่อให้เป็น“เมืองแห่งน้ำพุร้อนในประเทศจีน” จากกระทรวงที่ดินและทรัพยากรสหพันธ์น้ำพุร้อนและสภาพภูมิอากาศโลก  

 

เมืองแห่งวัฒนธรรม

นครฉงชิ่งมีตำบลแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับชาติรวม 23ตำบล มีหมู่บ้านแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับชาติ 1หมู่บ้าน มีเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับเมือง1เมือง มีตำบลแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับเมือง 53 ตำบล และมีหมู่บ้านแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับเมือง 45หมู่บ้าน 

 

สถานที่ท่องเที่ยว

นครฉงชิ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวระดับ A 246แห่งในจำนวนนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A 10 แห่ง สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 4A121 แห่ง และสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 3A 81แห่ง

 

ผาหินแกะสลักต้าจู๋

นับตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังตอนต้นจนถึงสมัยราชวงศ์หมิงและสมัยราชวงศ์ชิงการแกะสลักหินบนหน้าผามีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี นับเป็นหนึ่งในแปดถ้ำหินที่สำคัญของโลก มีประติมากรรมหินแกะสลักมากกว่า50,000 รูปซึ่งแกะสลักได้อย่างวิจิตรสวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็นดั่ง “หินที่พูดได้”

 

สถานที่ท่องเที่ยวอู่หลงคาสต์

ในอุทยานแห่งชาติอู่หลงมีสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่นหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ ภูเขานางฟ้าและถ้ำฝูหรองทั้งนี้ หลุมฟ้า 3สะพานสวรรค์เป็นกลุ่มสะพานธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกส่วนถ้ำฝูหรอง เป็นหนึ่งในสามถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วมกับ “ถ้ำแมมมอธ”ในสหรัฐอเมริกาและ“ถ้ำคราม” ในฝรั่งเศส 

 

ภูเขาจินฝอของหนานฉวน

ภูเขาจินฝอได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกโดยมีลักษณะทางภูมิประเทศแบบ“คาสต์ภูเขาโต๊ะ” 

 

สามโตรกแม่น้ำแยงซี

ช่องเขาฉวีถังเสีย และช่องเขาหวู่เสียของสามโตรกแม่น้ำแยงซีตั้งอยู่ในนครฉงชิ่ง ในบรรดาประตูนั้นประตูกุยเหมินที่อยู่ในทางเข้าด้านบนของช่องเขาฉวีถังเสียเป็นต้นแบบในการออกแบบธนบัตร 10หยวน ช่องเขาหวู่มีความยาวทั้งหมด 4 กิโลเมตร ในบรรดายอดเขาทั้งหมด 12 แห่งของช่องเขาหวู่ยอดเขาเทพธิดาเป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงที่สุด 

ภูเขาซี่เมี่ยนของเจียงจีน

ภูเขาซี่เมี่ยนของเจียงจีนมีลักษณะทางภูมิประเทศแบบตานเสีย(ซึ่งสีพื้นฐานของภูเขาหินคือสีแดง)เป็นทัศนียภาพที่น่าเที่ยวชมระดับโลกน้ำตกไหลแรงทรงพลัง โดยเฉพาะน้ำตกวังเซียงไถมีความสูงถึง 158 เมตร 

จุดชมวิวหุบเขาดำว่านเซิ่ง

หุบเขาดำมีความยาว 13 กิโลเมตรและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบรสมีทั้ง“ภูเขาสายน้ำ น้ำพุป่าไม้ และถ้ำหิน”โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำตกซี่ว สะพานลอยและหุบเขาใหญ่หยูเฉียนซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุด ปริมาณออกซิเจนไอออนลบในหุบเขาสูงถึง110,000ตัว/ลูกบาศก์เซนติเมตร 

อวิ๋นหยางหลงกัง

อุทยานธรณีแห่งชาติอวิ๋นหยางหลงกังได้รับสมญานามว่า “โอ่งแห่งแรกของโลก”มีสะพานกระจกคานเท้าแขนรูปเกือกม้าแห่งแรกของโลก และได้กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในด้านกีฬาผาดโผน